กระป๋องเครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull รุ่นต่าง ๆ วางเรียงในร้านค้า ภาพสะท้อนการรีเฟรชพอร์ตสินค้าในตลาดสหรัฐฯ

Red Bull รีเฟรชพอร์ตสินค้า รับศึกตลาดสหรัฐฯ ร้อนแรง ปรับแผนสู้คู่แข่งใหม่และผู้บริโภคยุคสุขภาพนำ

Red Bull รีเฟรชพอร์ตสินค้า รับศึกตลาดสหรัฐฯ ร้อนแรง ปรับแผนสู้คู่แข่งใหม่และผู้บริโภคยุคสุขภาพนำ

Red Bull ผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังอันดับหนึ่งของโลก ประกาศปรับพอร์ตสินค้าในสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ โดยเตรียมยุติจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง 4 รสชาติหลักในปี 2026 เพื่อเปิดทางให้กับ “รสชาติใหม่” ที่สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งให้ความสำคัญกับ “สุขภาพ ความสดใหม่ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรสชาติ”

การเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกมองว่าเป็น สัญญาณของการรีเซ็ตกลยุทธ์ตลาดสหรัฐฯ ตลาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก และเป็นสมรภูมิหลักที่แบรนด์คู่แข่งอย่าง Monster Energy, Celsius, และ Alani Nu เร่งรุกเข้ามาแย่งส่วนแบ่งอย่างดุเดือด

สหรัฐฯ สนามรบใหม่ของตลาดพันล้านดอลลาร์

ในปี 2024 ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในสหรัฐฯ มีมูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดย Red Bull ครองส่วนแบ่งสูงสุดราว 34% ตามมาด้วย Monster Energy ที่เติบโตต่อเนื่องจากฐานผู้บริโภควัยทำงาน และแบรนด์น้องใหม่อย่าง Celsius ที่เน้นภาพลักษณ์ “เครื่องดื่มพลังงานเพื่อสุขภาพ”

ขณะเดียวกัน PepsiCo และ Coca-Cola ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Rockstar และผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Monster Energy ตามลำดับ ต่างเร่งขยายพอร์ตในตลาดนี้อย่างต่อเนื่องผ่านการเข้าซื้อกิจการและร่วมมือกับผู้ผลิตรายใหม่ เพื่อรักษาส่วนแบ่งในหมวดที่เติบโตเร็วที่สุดของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มทั่วโลก

“Red Bull ต้องการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดที่ทั้งรายได้สูงและการแข่งขันรุนแรงที่สุด” นักวิเคราะห์จาก Beverage Marketing Corp. กล่าว

ยุติการทำตลาด 4 รสชาติ เปิดทางกลยุทธ์รสใหม่เจาะกลุ่มสุขภาพ

Red Bull เตรียมหยุดจำหน่าย 4 รสชาติ ได้แก่

  • Amber Edition (Strawberry Apricot) แบบ Sugar-Free
  • Green Edition (Karuba Elderflower)
  • Red Edition (Watermelon) แบบ Sugar-Free
  • Blue Edition (Blueberry)

โดยบริษัทระบุว่าการยุติผลิตภัณฑ์บางส่วนในปี 2026 เป็น “การปรับพอร์ตเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการพัฒนานวัตกรรมใหม่” ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดที่ผู้บริโภคเริ่มหันมาสนใจ รสชาติใหม่ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น แต่มีน้ำตาลน้อยลง และให้พลังงานจากส่วนผสมธรรมชาติ

นักการตลาดในวงการเครื่องดื่มมองว่า นี่คือการ ปรับฐานทางอารมณ์ของแบรนด์ (Brand Refresh) ที่จะช่วยให้ Red Bull รักษาความเป็นแบรนด์แห่งพลังและการผจญภัย แต่เพิ่ม “ความเข้ากับไลฟ์สไตล์สุขภาพ” ให้มากขึ้น

ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ จากเร่งพลังสู่การเติมความสมดุล

ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมผู้บริโภคสหรัฐฯ ชี้ว่า ตลาดเครื่องดื่มพลังงานเริ่ม “เข้าสู่ยุคของสมดุล” ผู้บริโภคไม่ได้ต้องการแค่ความตื่นตัว แต่ต้องการ “พลังที่ยั่งยืน” และ “รู้สึกดีต่อสุขภาพ” หลังดื่ม

ในอดีต เครื่องดื่มชูกำลังถูกมองว่าเป็นสินค้าของนักกีฬา คนทำงานหนัก หรือวัยรุ่นที่ต้องการความคึกคัก
แต่ในปัจจุบัน กลุ่มผู้บริโภคขยายไปถึงวัยทำงานสายฟิตเนส คนทำงานออฟฟิศที่ต้องการสมาธิ และกลุ่ม Gen Z ที่สนใจแบรนด์ที่มีจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพจิต

Red Bull จึงเริ่มปรับภาพลักษณ์ในสหรัฐฯ ให้สะท้อนแนวคิดใหม่ เช่น การร่วมมือกับแบรนด์ไลฟ์สไตล์และศิลปิน รวมถึงการออกแคมเปญที่เน้น “พลังสร้างสรรค์” มากกว่า “พลังแข่งขัน” เหมือนในอดีต

ผลประกอบการยังแกร่ง แต่แรงกดดันเริ่มชัด

Red Bull ขายได้กว่า 12.67 พันล้านกระป๋องทั่วโลกในปี 2024 สร้างรายได้ราว 12.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตต่อเนื่องจากปี 2023


อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดสหรัฐฯ กำลังถูกเบียดด้วยแบรนด์ใหม่ที่มีจุดขายเฉพาะตัว

ด้าน Celsius Holdings โตขึ้นกว่า 40% ในตลาดอเมริกา ด้วยกลยุทธ์ “พลังงานจากส่วนผสมธรรมชาติ” และแบรนด์ที่สื่อถึงสุขภาพ

ส่วนMonster Energy รักษายอดขายด้วยการแตกแบรนด์ย่อย (เช่น Monster Zero, Reign, Beast Unleashed)

ขณะที่ Alani Nu เจาะกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานด้วยภาพลักษณ์สดใสและรสหวานเบา

แรงกดดันนี้ทำให้ Red Bull ต้องเร่งปรับพอร์ต เพื่อรักษาฐานผู้บริโภคเดิม และเปิดประตูสู่กลุ่มใหม่ในตลาดที่เปลี่ยนเร็ว

แหล่งข้อมูล

https://www.thestreet.com/restaurants/leading-energy-drink-brand-discontinuing-4-flavors?utm_medium=browser_notifications&utm_source=pushly&utm_campaign=86074129