OpenAI ร่วมพัฒนาโครงการ Mercury ใช้ AI สร้างแบบจำลองทางการเงินและรายงานแทนนักวิเคราะห์ธนาคาร

OpenAI เปิดโครงการ “Mercury” ดึงอดีตนักวิเคราะห์วอลล์สตรีทกว่า 100 คน ปั้น AI แทนแรงงานมนุษย์ในธนาคารเพื่อการลงทุน

OpenAI เปิดโครงการ “Mercury” ดึงอดีตนักวิเคราะห์วอลล์สตรีทกว่า 100 คน ปั้น AI แทนแรงงานมนุษย์ในธนาคารเพื่อการลงทุน

เผยแพร่: 21 ตุลาคม 2025 | แหล่งข่าว: Bloomberg, Fortune, Forbes

OpenAI กำลังขยายอิทธิพลสู่โลกการเงินเต็มรูปแบบ หลังมีรายงานจาก Bloomberg ว่าบริษัทได้จ้างอดีตนักวิเคราะห์การลงทุน (Investment Banking Analyst) มากกว่า 100 คนจากสถาบันการเงินชั้นนำของวอลล์สตรีท ไม่ว่าจะเป็น JPMorgan Chase, Morgan Stanley และ Goldman Sachs เพื่อเข้าร่วม “โครงการลับ” ที่ใช้ชื่อว่า Project Mercury

เป้าหมายของโครงการคือการ “สอน AI ให้คิดและทำงานเหมือนนักวิเคราะห์การเงินมืออาชีพ” โดยเฉพาะการสร้างแบบจำลองทางการเงิน (Financial Modeling) การเตรียมสไลด์นำเสนอ (Pitch Deck) และรายงานสำหรับดีลขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้เวลามหาศาลของนักวาณิชธนกิจระดับต้น

OpenAI เตรียมปฏิวัติวงการการเงิน

โครงการ Mercury เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ใหม่ของ OpenAI ที่มุ่งขยายการใช้งาน AI จากแวดวงเทคโนโลยีไปสู่ อุตสาหกรรมการเงินระดับโลก หลังบริษัทเพิ่งระดมทุนกว่า 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และประเมินมูลค่ากิจการล่าสุดไว้ที่กว่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แนวทางนี้สะท้อนชัดว่า OpenAI ไม่ได้ต้องการแค่สร้าง Chatbot หรือ Copilot สำหรับสำนักงานทั่วไป แต่กำลังสร้าง “AI มืออาชีพ” ที่สามารถทำงานเฉพาะทางแทนมนุษย์ได้จริง

จ้างอดีตนักวิเคราะห์มาฝึก AI ค่าตอบแทนกว่า 150 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง

อดีตนักวิเคราะห์ที่เข้าร่วมโครงการได้รับค่าตอบแทนสูงถึง 150 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 5,500 บาท) เพื่อทำหน้าที่ “โค้ช” ให้กับ AI ของ OpenAI โดยสร้างคำสั่งเฉพาะทาง (Custom Prompts) และเทรนโมเดลให้ทำงานได้ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการจัดรูปแบบตาราง การคำนวณเปอร์เซ็นต์ ไปจนถึงการวางเลย์เอาต์ของสไลด์นำเสนออย่างถูกต้องตามมาตรฐานของธนาคารลงทุน

รายงานระบุว่า AI ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาสามารถ สร้างแบบจำลองและสไลด์สำเร็จรูปได้โดยไม่ต้องรอการตรวจสอบจากผู้จัดการ ซึ่งอาจลดความจำเป็นของนักวิเคราะห์ระดับจูเนียร์ลงอย่างมาก

ปฏิวัติ “งานสกปรก” ของนักวาณิชธนกิจจบใหม่

ในโลกธนาคารเพื่อการลงทุน ตำแหน่ง “นักวาณิชธนกิจจบใหม่” หรือ Junior Investment Banker มักต้องทำงานหนักมากกว่า 80–100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่วนใหญ่ใช้เวลานับสิบชั่วโมงต่อวันกับงานซ้ำซาก เช่น การสร้างไฟล์ Excel สำหรับโมเดลทางการเงิน และการจัดสไลด์นำเสนอสำหรับผู้บริหาร

AI ที่ OpenAI กำลังพัฒนาในโครงการ Mercury ถูกออกแบบมาเพื่อลดภาระเหล่านี้โดยตรง ทำให้กระบวนการที่เคยใช้คนทำหลายวัน เหลือเพียงไม่กี่นาที

Bloomberg ชี้ว่า นักวิเคราะห์ระดับต้นส่วนใหญ่ทำงานในสายนี้ไม่เกิน 2 ปี และ OpenAI กำลังดึงคนกลุ่มนี้ ซึ่งมีประสบการณ์ตรงกับ “งานหนักที่ซ้ำซาก” มาช่วยเทรน AI เพื่อยกระดับให้เข้าใจบริบทของงานการเงินอย่างแท้จริง

ผลกระทบต่อแรงงานสายวาณิชธนกิจ

การมาของ AI จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเส้นทางอาชีพของนักวาณิชธนกิจจบใหม่ ซึ่งเดิมเคยเป็นตำแหน่งเริ่มต้นที่สำคัญของสายงานนี้ เพราะงานส่วนใหญ่ในช่วงแรกเป็นงานประจำซ้ำซาก เช่น การสร้างโมเดล วิเคราะห์งบ และจัดทำเอกสารนำเสนอ

เมื่อ AI สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้อัตโนมัติ ความต้องการแรงงานมนุษย์ระดับเริ่มต้นอาจลดลงในระยะกลางถึงยาว อย่างไรก็ตาม AI ยังไม่สามารถแทนที่ความสามารถในการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ การตัดสินใจ และการสื่อสารกับลูกค้าได้ทั้งหมด นักวาณิชธนกิจยุคใหม่จึงจำเป็นต้องปรับตัว เพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยี การจัดการข้อมูล และการทำงานร่วมกับ AI เพื่อก้าวไปสู่บทบาทที่มีมูลค่าสูงกว่าเดิม

แหล่งข้อมูล: Bloomberg, Fortune, Forbes

อ้างอิง: Bloomberg Tech, OpenAI Is Building a Banker, Fortune: Sam Altman’s OpenAI is coming for Wall Street’s junior bankers