พร้อมมาดเซอร์ๆ ของ “เจนเซน หวง” ที่ซ่อนวิศวกรรมระดับ F1 ไว้บนข้อมือ

ท่ามกลางพายุความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโลก มีชายคนหนึ่งที่เดินเข้าห้องประชุมด้วย แจ็กเก็ตหนังสีดำและรองเท้าผ้าใบพื้นขาว ชุดเดิมที่ใครหลายคนคุ้นตา ไม่ใช่เพราะเขาขี้เบื่อเรื่องแฟชั่น แต่เพราะเขาคือ เจนเซน หวง (Jensen Huang) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของ Nvidia ชายผู้พลิกชะตาบริษัทจากผู้ผลิตการ์ดจอ สู่หัวใจของยุค AI และล่าสุด กลายเป็นผู้นำบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Nvidia ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ บนวอลล์สตรีท ด้วยมูลค่าตลาดที่ทะยานแตะระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นแท่นเหนือ Apple, Microsoft และ Saudi Aramco อย่างสง่างาม กลายเป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกเป็นครั้งแรก

ราคาหุ้นของ Nvidia ปรับขึ้นอีก 1.6% ในวันเดียว สะท้อนแรงหนุนจากความต้องการชิป AI ที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้จะเผชิญความท้าทายจากข้อจำกัดการส่งออกไปยังจีน บริษัทก็ยังแสดงความมั่นใจในอนาคตของเทคโนโลยีที่ตนเป็นผู้นำ

แต่เบื้องหลังมูลค่าระดับอภิมหาเศรษฐีนี้ คือชายผู้ยังคงรักษาความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ไว้เสมอ

นาฬิกาหรูที่สะท้อนจิตวิญญาณของ Jensen Huang

ในการปรากฏตัวครั้งล่าสุด Huang ไม่ได้สวมสูทหรู หรือเครื่องประดับแวววาว แต่สิ่งที่สายตาอินไซเดอร์สังเกตเห็นคือ นาฬิกา Richard Mille RM 27-05 Flying Tourbillon Rafael Nadal บนข้อมือเขา — เรือนเวลาระดับ 1.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีเพียง 80 เรือนในโลก

• หนักเพียง 11.5 กรัม (ไม่รวมสาย) เบากว่านาฬิกาส่วนใหญ่ในตลาด
• ตัวเรือนผลิตจาก Carbon TPT B.4 วัสดุเดียวกับรถแข่ง Formula 1
• กลไก skeletonized ที่บางเพียง 7.2 มม. แต่ทนแรงกระแทกได้ถึง 300 g
• เป็นผลงานสุดท้ายจากความร่วมมือระหว่าง Richard Mille กับ Rafael Nadal

มหาเศรษฐีที่ซ่อน “พลัง” ไว้ในความเรียบง่าย

Jensen Huang คือหนึ่งในบุคคลไม่กี่คนที่โลกเทคโนโลยีให้ฉายาว่า “มหาเศรษฐีที่ถ่อมตนที่สุดของซิลิคอนวัลเลย์” ด้วยทรัพย์สินสุทธิที่พุ่งแตะ 135 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามข้อมูลของ Forbes ในปี 2025

เขาไม่เคยเปลี่ยนเครื่องแบบเลยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา — แจ็กเก็ตหนังเดิม รองเท้าผ้าใบคู่เดิม และท่าทีไม่โอ้อวด แต่สิ่งที่เขา “เลือกใส่” กลับซ่อนความหมายไว้ลึกซึ้ง

นาฬิกาเรือนนี้สะท้อนความเป็นตัวเขา เบาแต่แกร่ง เรียบแต่เปี่ยมนวัตกรรม เงียบแต่ทรงพลัง

เหมือนกับ Nvidia ที่ไม่ได้ครองโลกด้วยแสงแฟลช แต่ด้วย พลังประมวลผล AI ที่โลกขาดไม่ได้

จากนักวิศวกรรมสู่นักสร้างอนาคต

มูลค่าที่ Nvidia สร้างไว้ไม่ใช่เพียงตัวเลข แต่คือสัญญาณว่าทิศทางของโลกเปลี่ยนไปแล้ว เทคโนโลยีที่เคยอยู่เบื้องหลังของเกม วันนี้กลายเป็นสมองของโลกยุคใหม่ ตั้งแต่ ChatGPT ถึงรถยนต์ไร้คนขับ หรือห้องแล็บวิจัยยาแห่งอนาคต ทุกอย่างมี Nvidia อยู่เบื้องหลัง

และที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ คนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าความสำเร็จนี้ ไม่เคยต้องยกมือประกาศชัยชนะ แต่แค่ยิ้มเบา ๆ ใต้แจ็กเก็ตหนังตัวเดิม

ในวันที่ Nvidia ขึ้นแท่นบริษัทมูลค่าสูงที่สุดในโลก สิ่งที่สะท้อนตัวตนของผู้นำบริษัทได้ดีที่สุด อาจไม่ใช่พาดหัวข่าวหรือมูลค่าหุ้น แต่คือ เรือนเวลาบนข้อมือของเขา นาฬิกาที่บอกเวลาไม่ใช่เพื่อความหรูหรา แต่เพื่อสะท้อนจิตวิญญาณของนักสร้างที่มองไกลกว่าใคร

และนั่นคือ Jensen Huang… คนที่ทำให้ AI ไม่ใช่แค่เรื่องของอนาคต แต่กลายเป็น “ตอนนี้” ที่เปลี่ยนโลกไปแล้ว

“ในโลกของมหาเศรษฐี บางคนเลือกแสดงความร่ำรวยผ่านเพชรและทองคำ แต่ Jensen Huang เลือกแสดงความหลงใหลผ่านวิศวกรรมระดับ F1 ที่เบากว่าเหรียญหนึ่งเหรียญ — เพราะสำหรับเขา เทคโนโลยีคือภาษาของความงาม”

อ้างอิงจาก: Luxurylaunches – Jensen Huang wearing a Richard Mille RM 27-05