กล้อง DSLR ขณะมือกำลังหมุนปุ่มควบคุม

อุตสาหกรรมอุปกรณ์ถ่ายภาพไทยเผชิญความท้าทายกับภาษีทรัมป์ครั้งใหญ่

นโยบายภาษีนำเข้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มส่งผลกระทบรุนแรงต่ออุตสาหกรรมอุปกรณ์ถ่ายภาพของไทย หลังสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ผลิตไทยเผชิญปัญหาการส่งออกและต้นทุนที่สูงขึ้น และอาจประสบปัญหาการเคลื่อนย้ายการลงทุนไปประเทศอื่น

ประเทศไทยถูกระบุเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายสำคัญของนโยบายภาษีใหม่นี้ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์ถ่ายภาพและอุปกรณ์ประกอบ ซึ่งจะถูกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 25-40% ในตลาดสหรัฐฯ

ไทย ฐานการผลิตหลักของแบรนด์ระดับโลก

  • Sony โรงงานผลิตกล้อง เลนส์ และอุปกรณ์ถ่ายภาพ
  • Nikon ฐานการผลิตกล้อง DSLR และเลนส์
  • Canon โรงงานกล้อง เลนส์ และเครื่องพิมพ์

สินค้าจากโรงงานไทยของแบรนด์เหล่านี้จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีใหม่นี้ในการส่งออกไปสหรัฐฯ

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไทย

  1. ความสามารถในการแข่งขันลดลง
    • สินค้าจากไทยมีราคาสูงขึ้นในตลาดสหรัฐฯ
    • ผู้บริโภคอาจหันไปซื้อสินค้าจากแหล่งอื่น
    • แบรนด์อาจต้องขึ้นราคาหรือแบกรับต้นทุนเอง
  2. การปรับโครงสร้างการผลิต
    • พิจารณาย้ายฐานผลิตไปยังประเทศอื่นในอาเซียน
    • ย้ายกลับสหรัฐฯ ไม่คุ้มค่าเพราะแรงงานแพง
  3. ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน
    • โรงงานที่ผลิตชิ้นส่วนในไทยอาจเสียออเดอร์
    • ความไม่แน่นอนสูงในระบบโลจิสติกส์

ผลกระทบต่อผู้บริโภคไทย

  • ราคากล้องและเลนส์ที่ผลิตในไทยอาจปรับสูงขึ้น
  • อุปกรณ์นำเข้าที่เคยผลิตในไทยแล้วส่งออกกลับมา อาจแพงขึ้น
  • ค่าซ่อมกล้อง/เปลี่ยนอะไหล่เพิ่มขึ้นตามต้นทุน

มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญไทย

“ไทยไม่ใช่แค่ประเทศผู้ผลิตธรรมดา แต่เป็นฐานการผลิตสำคัญของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก การเก็บภาษีครั้งนี้อาจบีบให้บริษัทเหล่านี้ต้องพิจารณาย้ายการผลิตไปที่อื่น”

ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเสนอว่า ไทยควรใช้โอกาสนี้ในการ ขยายตลาดใหม่ เช่น ภูมิภาคอาเซียน ยุโรป หรือประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ เพื่อรักษาความมั่นคงในการเป็นฐานการผลิตระดับโลก

แหล่งข้อมูล