MK ปรับกลยุทธ์ใหม่เปิดแบรนด์ลูก “โบนัสสุกี้” ราคา 219 บาทต่อคน รับมือคู่แข่งแย่งตลาดบุฟเฟ่ต์

บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ในสงครามตลาดบุฟเฟ่ต์สุกี้ที่แข่งขันรุนแรง ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ลูก “BONUS SUKI (โบนัสสุกี้)” ราคาบุฟเฟ่ต์เพียง 219 บาทต่อคน (ไม่รวมเครื่องดื่ม) เพื่อดึงลูกค้ากลับมาหลังถูกคู่แข่งรายใหม่แย่งส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่อง

การเปิดตัวแบรนด์ใหม่นี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่เอ็มเคต้องเผชิญกับผลการดำเนินงานที่ชะลอตัว โดยในไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 3,541 ล้านบาท ลดลง 10.3% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 234 ล้านบาท ลดลง 32.6%

เปิดสาขาแรกที่สระบุรี เจาะกลุ่มสายกินดึก

โบนัสสุกี้เปิดให้บริการสาขาแรกที่โรบินสันไลฟ์สไตล์ สระบุรี เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 68 ด้วยคอนเซ็ปต์ “วาไรตี้บุฟเฟ่ต์คุณภาพดี” เสิร์ฟเมนูกว่า 60 รายการ ทั้งหมู-เนื้อออสเตรเลีย-ซีฟู้ด-ลูกชิ้น ของทานเล่น และเครื่องดื่ม

จุดเด่นสำคัญคือการเปิดให้บริการ 18 ชั่วโมง ตั้งแต่ 11.00–05.00 น. ซึ่งเป็นร้านที่เปิดดึกที่สุดในตลาด เพื่อเจาะกลุ่ม “สายกินดึก” ที่มองหาความคุ้มค่าและความสะดวก

ช่วงเปิดตัว 16–20 ก.ค. 68 จัดโปรโมชัน 1 แถม 1 จำกัด 100 สิทธิ์ต่อวัน พร้อมแต่งตั้งบริษัทลูก “คุ้มคุ้ม จำกัด” เพื่อดูแลธุรกิจร้านอาหารโดยเฉพาะ

ใช้กลยุทธ์ “Value Strategy” ลดราคา MK Buffet

MK ปรับกลยุทธ์เป็น “Value Strategy” โดยปรับโฉม MK Buffet ลดราคาเหลือ 299 บาท (ทานได้ 90 นาที) และเพิ่มเมนูเนื้อพรีเมียม เช่น เนื้อบริสเก็ตออสเตรเลีย กุ้งแม่น้ำ ฯลฯ

กลยุทธ์หลักคือการผสมผสานแบรนด์ใหม่เข้าในพอร์ต พร้อมจัดโปรโมชั่นหนัก และใช้เครือข่ายร้านในห้างอย่าง Lotus’s, Big C, Westgate ที่ปรับโฉมใหม่ รองรับบุฟเฟ่ต์ราคาถูก ทำเลสะดวก

แข่งขันดุเดือดกับตี๋น้อย–ลัคกี้สุกี้

ตลาดบุฟเฟ่ต์สุกี้ในไทยแข่งขันรุนแรง โดยมีคู่แข่งสำคัญคือ สุกี้ตี๋น้อย (Suki Teenoi) ที่จัดโปรบุฟเฟ่ต์ 199 บาท (สุทธิ 254 บาท) และ ลัคกี้สุกี้ (Lucky Suki) ที่มี 13 สาขาทั่วประเทศ ราคาเริ่มต้น 219 บาท

ตี๋น้อยเน้นภาพลักษณ์ “คุ้มเกินราคา” ด้วยวัตถุดิบสมราคา และโปรโมชันบนโซเชียล ส่วนลัคกี้สุกี้ชูจุดขาย “ครบครัน” ทั้งหมู-เนื้อ-ซีฟู้ด-ติ่มซำ-ของทอด

ท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจ

ผู้บริโภคยุคนี้รัดเข็มขัด ต้องการ “ความคุ้มค่า” ทำให้แคมเปญบุฟเฟ่ต์ราคาถูกมีผลต่อการตั้งราคาในตลาด

แบรนด์ต่างๆ ต้องแข่งขันมากกว่าแค่ราคา เช่น การเพิ่มคุณภาพวัตถุดิบ การจัดเมนูพิเศษ หรือบริการเฉพาะกลุ่ม เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมกินนอกบ้านของกลุ่มวัยรุ่นและครอบครัว

แม้ตลาดบุฟเฟ่ต์สุกี้ยังมีโอกาสเติบโตจากความนิยม “กินไม่อั้น” แต่ทุกแบรนด์ต้องปรับตัวอย่างสร้างสรรค์เพื่อแย่งพื้นที่ในตลาดที่แข่งขันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ