ภาพจำลองมิติของเวลาและการเดินทางสู่อนาคตในแนวคิด Longevity Escape Velocity

แม้จะฟังดูเหนือจริง แต่มันก็อาจเกิดขึ้นจริงได้…หากเทคโนโลยีพัฒนาไปถึง

มนุษย์อาจย้อนเวลาได้ภายใน 4 ปีกับแนวคิด “จุดหลบหนีความชรา”

เรย์ เคิร์ซ์ไวล์ (Ray Kurzweil) นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และนักอนาคตนิยมชื่อดัง เชื่อว่า ภายในปี 2029 มนุษย์จะบรรลุสิ่งที่เรียกว่า “Longevity Escape Velocity” หรือ จุดหลบหนีความชรา ซึ่งหมายถึงภาวะที่อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์จะเพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งปีต่อทุกปีที่ผ่านไป เทียบได้กับการ “ย้อนเวลา” ในแง่ของอายุขัย

“หลังจากปี 2029 คุณจะได้ชีวิตกลับคืนมามากกว่าหนึ่งปี เท่ากับว่าย้อนเวลาได้”— เคิร์ซ์ไวล์

จุดหลบหนีความชรา คืออะไร?

แนวคิดนี้หมายถึง การที่ความก้าวหน้าทางการแพทย์และเทคโนโลยีสามารถเพิ่มอายุขัยของมนุษย์ได้เร็วกว่าการเสื่อมของร่างกาย เช่น ถ้าเรามีอายุเพิ่มขึ้น 1 ปี แต่อายุขัยโดยเฉลี่ยของเรากลับเพิ่มขึ้น 1 ปี 2 เดือน เท่ากับว่าเรา “ได้เวลาเพิ่ม” อีก 2 เดือนในทุกปี

แม้จะฟังดูเหมือนนิยายไซไฟ แต่นักอนาคตนิยมเชื่อว่าแนวโน้มของ AI, เทคโนโลยีชีวภาพ และชีววิทยาจำลอง (simulated biology) จะทำให้แนวคิดนี้เข้าใกล้ความจริงยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า

ความเป็นไปได้และข้อจำกัด

เคิร์ซ์ไวล์ ยกตัวอย่างถึงความก้าวหน้าทางการแพทย์ เช่น การพัฒนาวัคซีนโควิดภายในสิบเดือน และการวิเคราะห์ข้อมูล mRNA หลายพันล้านชุดภายในสองวัน ว่าเป็นหลักฐานว่าการเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่เขาก็เตือนว่า: “การบรรลุจุดหลบหนีความชรา หรือ Longevity Escape Velocity ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นอมตะ”

เพราะโรคมะเร็งจากการกลายพันธุ์แบบสุ่ม รวมถึงอุบัติเหตุต่าง ๆ ยังเป็นความไม่แน่นอนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะมีเทคโนโลยีอย่างรถยนต์ไร้คนขับก็ตาม

อายุขัยไม่ใช่อายุยืน

ถึงแม้จะมีความหวังมากมาย แต่ต้องเข้าใจว่าคำว่า “longevity escape velocity” หมายถึงการเพิ่มค่าเฉลี่ยของอายุขัย ไม่ใช่การมีชีวิตอมตะ

“การบรรลุ Longevity escape velocity ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป” เคิร์ซ์ไวล์กล่าว “เด็กอายุ 10 ขวบอาจมีอายุขัยอีกหลายสิบปี แต่ก็อาจเสียชีวิตพรุ่งนี้ได้”

ชีวิตยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โรคมะเร็งซึ่งเกิดจากการกลายพันธุ์แบบสุ่ม ยังเป็นปัญหาใหญ่ และเราคงยังไม่สามารถรักษาทุกชนิดได้ภายใน 4 ปี รวมถึงอุบัติเหตุที่ยังคงเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ แม้เทคโนโลยี เช่น รถยนต์ไร้คนขับ อาจช่วยลดความเสี่ยงได้

เรย์ เคิร์ซ์ไวล์ (Credit: cmple)

แม่นยำบ้าง ผิดพลาดบ้าง

เคิร์ซ์ไวล์ เป็นที่รู้จักจากการทำนายอนาคตอย่างแม่นยำหลายครั้ง เช่น สมาร์ตโฟน, Wi-Fi, คลาวด์คอมพิวติ้ง หรือ AI ที่ชนะนักหมากรุกในปี 1997

แต่เขาก็เคยพลาดเช่นกัน ไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้อย่างสมบูรณ์

อุปสรรคใหญ่ การเข้าถึงเทคโนโลยี

แม้แนวคิด Longevity Escape Velocity จะดูน่าตื่นเต้น แต่ความจริงคือ เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงยังไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างแพร่หลายในทุกพื้นที่

เช่น โรควัณโรคที่สามารถรักษาได้ กลับยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ในหลายประเทศ

ความฝันที่มีเงื่อนไข

แนวคิด Longevity Escape Velocity อาจกลายเป็นจริงในอนาคต แต่ยังต้องอาศัยหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ การกระจายเทคโนโลยี และความเข้าใจของสังคม

เพราะแม้เทคโนโลยีจะล้ำหน้าแค่ไหน ความเป็นมนุษย์ยังเต็มไปด้วยความเปราะบาง

แหล่งข้อมูลอ้างอิง: