81 ปีแห่งการรอคอย วันที่เขาพิชิตโลก
เมื่อพูดถึงโลกของมหาเศรษฐี หลายปีที่ผ่านมาเรามักจะคุ้นชินกับชื่อ อีลอน มัสก์ ซีอีโอแห่ง Tesla และ SpaceX หรือ เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง Amazon ที่สลับกันขึ้นครองบัลลังก์บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โลกการเงินและเทคโนโลยีก็ต้องสะเทือนอีกครั้ง เมื่อชายวัย 81 ปีที่ชื่อ แลร์รี เอลลิสัน ก้าวขึ้นมาแซงหน้า อีลอน มัสก์ชั่วคราว กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.93 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่มัสก์มีทรัพย์สินราว 3.85 แสนล้านดอลลาร์
แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็เพียงพอให้ชื่อของเอลลิสันกลับมาครองพื้นที่สื่อ และตอกย้ำให้โลกตระหนักว่า “เด็กชายจากบรองซ์” ทางตอนเหนือแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก คนนี้ คือหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ซิลิคอน วัลลีย์

Oracle และ AI บทเรียนสำหรับโลกธุรกิจ
การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งชั่วคราวของแลร์รี เอลลิสัน ไม่ใช่เพียงเรื่องส่วนตัวของชายวัย 81 ปี แต่คือภาพสะท้อนของ การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ในเศรษฐกิจโลก
- AI คือคลื่นลูกใหม่ที่สร้างความมั่งคั่งมหาศาล
ดีลระหว่าง Oracle และ OpenAI ไม่เพียงกระตุ้นราคาหุ้นให้ทะยานขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ยังตอกย้ำว่า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลและคลาวด์ คือเส้นเลือดใหญ่ของยุคปัญญาประดิษฐ์ บริษัทใดที่ก้าวเข้ามาจับมือกับผู้นำ AI จะมีพลังทวีคูณในมูลค่าทางเศรษฐกิจ - การรอคอยและความอดทนคือปัจจัยสำคัญ
เอลลิสันถูกมองว่าเป็น “ยักษ์ใหญ่ที่เงียบงัน” มาหลายสิบปี Oracle ไม่เคยอยู่ในสปอตไลต์แบบ Google, Apple หรือ Microsoft แต่การอดทนรักษาพื้นฐานธุรกิจให้มั่นคง กลับทำให้เขามีจังหวะสำคัญในยุคที่ AI กำลังกลายเป็นจุดเปลี่ยนโลกธุรกิจ - ซิลิคอน วัลลีย์ยังคงเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจ
แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าซิลิคอน วัลลีย์กำลังถึงทางตัน แต่เรื่องของเอลลิสันแสดงให้เห็นว่า ที่นี่คือแหล่งรวมทุน ความคิด และเทคโนโลยี ที่ยังสามารถสร้าง “เศรษฐีใหม่” หรือผลักดันมหาเศรษฐีเดิมให้กลับมาครองบัลลังก์ได้อีกครั้ง - อายุไม่ใช่ข้อจำกัดของความสำเร็จ
ในวัยกว่า 80 ปี เอลลิสันยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในสนามเทคโนโลยี จุดนี้สะท้อนว่าความรู้ ประสบการณ์ และเครือข่ายที่สะสมมายาวนาน อาจมีค่ามากกว่าความสดใหม่เพียงอย่างเดียวในโลกธุรกิจ
มองไปข้างหน้า
กรณีของแลร์รี เอลลิสันคือเครื่องยืนยันว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเคลื่อนเข้าสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว บริษัทที่มีทุนและโครงสร้างพื้นฐานดาต้าจะเป็นผู้กำหนดกติกาใหม่ Oracle ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่า “เก่า” วันนี้กลับถูกยกให้เป็นหนึ่งในผู้กำหนดอนาคต
สำหรับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย บทเรียนสำคัญคือ การสร้าง “โครงสร้างพื้นฐานข้อมูลและเทคโนโลยีคลาวด์” ไม่ใช่แค่รองรับธุรกิจปัจจุบัน แต่คือการลงทุนเพื่อโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาลในอนาคต
และที่สำคัญที่สุด เรื่องราวของแลร์รี เอลลิสันตอกย้ำว่า ในโลกธุรกิจ ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการกลับมาพลิกเกม

การรอคอยเกือบครึ่งศตวรรษ
ความสำเร็จล่าสุดของเอลลิสันเกิดขึ้นจากแรงส่งมหาศาลของหุ้น Oracle บริษัทที่เขาร่วมก่อตั้งในปี 1977 หุ้น Oracle พุ่งขึ้นกว่า 101,000 ล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว หลังจากการประกาศความร่วมมือกับ OpenAI มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์
นี่ไม่ใช่เพียงการเพิ่มมูลค่าธุรกิจ แต่คือ “การปิดฉากการรอคอย” ที่ยาวนานเกือบ 50 ปี เอลลิสันเคยเล่าหลายครั้งว่า Oracle ถูกมองเป็นยักษ์ใหญ่ที่อยู่เงียบ ๆ ไม่ฉูดฉาดเหมือน Google หรือ Microsoft แต่วันนี้ บริษัทร่วมก่อตั้งของเขากลับกลายเป็นกำลังหลักของยุค AI อย่างเต็มตัว
“เขาเฝ้ารอช่วงเวลานี้มาเกือบครึ่งศตวรรษ” — แหล่งข่าวใกล้ชิด Oracle กล่าวกับ Bloomberg

ชายลึกลับแห่งซิลิคอน วัลลีย์
แม้จะเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพล แต่เอลลิสันกลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ลึกลับ Julian Guthrie นักเขียนที่ใช้เวลาหนึ่งปีสัมภาษณ์เขาเผยว่า ตัวจริงของแลร์รีแตกต่างจากภาพลักษณ์ในสื่อ เขาเป็นคนถ่อมตัว ใฝ่รู้ และเป็นนักอ่านตัวยง
ความสนใจของเขายังขยายไปถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง — เขาสะสมศิลปะญี่ปุ่นอายุกว่า 1,100 ปี รวมทั้งดาบซามูไร และเคยนำผลงานกว่า 64 ชิ้นไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียในซานฟรานซิสโก บ้านหลักในวูดไซด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ขนาด 23 เอเคอร์ ถูกสร้างเลียนแบบบรรยากาศเกียวโต ครบด้วยบ่อปลาคาร์ป ร้านน้ำชา และทะเลสาบส่วนตัว งบก่อสร้างสูงถึง 200 ล้านดอลลาร์

จากบรองซ์สู่ราชันซอฟต์แวร์
เอลลิสันเกิดเมื่อปี 1944 ในย่านบรองซ์ นิวยอร์ก เติบโตในครอบครัวชนชั้นแรงงานที่เซาท์ไซด์ ชิคาโก เส้นทางการศึกษาของเขาเต็มไปด้วยการลาออก — ทั้งจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์และมหาวิทยาลัยชิคาโก แต่ความถนัดด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์พาเขามาสู่โลกการเขียนโปรแกรม
ในปี 1977 เขากับเพื่อนร่วมงานก่อตั้ง Oracle Systems Corporation โดยใช้แรงบันดาลใจจากโปรเจ็กต์ฐานข้อมูลที่เคยทำให้ CIA Oracle จึงเติบโตเป็นยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์องค์กร และต่อยอดสู่ธุรกิจคลาวด์ในเวลาต่อมา ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่มั่งคั่งที่สุดของโลก
สมบัติที่เกินกว่าจินตนาการ
หากนับเฉพาะที่อยู่อาศัย เอลลิสันมีมากกว่า 12 หลังทั่วโลก — ตั้งแต่ วิลล่าที่เกียวโต มูลค่า 86 ล้านดอลลาร์ ที่ตั้งอยู่ในวัดเซน ไปจนถึงคฤหาสน์เก่าของตระกูล Astor ที่โรดไอแลนด์ แต่สิ่งที่ทำให้โลกต้องทึ่งที่สุดคือ เกาะลาไน (Lanai) ในฮาวาย ที่เขาถือครองถึง 98%
จากเกาะที่เคยเป็นไร่สับปะรด วันนี้ถูกพัฒนาเป็นรีสอร์ต Four Seasons หรูหรา 2 แห่ง สนามกอล์ฟระดับโลก และชุมชนเล็ก ๆ ที่มีประชากรราว 3,000 คน ส่วนใหญ่ทำงานให้เขา — เกาะทั้งเกาะแทบจะเป็น “อาณาจักรส่วนตัว” ของมหาเศรษฐีคนนี้

ของเล่นมหาเศรษฐี: เรือซามูไรและเครื่องบินรบ
- Musashi Yacht — เรือยอทช์ยาว 288 ฟุต มูลค่า 160 ล้านดอลลาร์ ตั้งชื่อตามนักรบซามูไร มิยาโมโตะ มูซาชิ เรือมี 5 ชั้น ห้องออกกำลังกาย สปา โรงหนัง และสนามบาสเก็ตบอล (พร้อมเรือลำเล็กที่คอยเก็บลูกบาสที่ตกทะเล!)
- เครื่องบินทหาร 2 ลำ — เขาขับด้วยตัวเองในเวลาว่าง แสดงถึงความหลงใหลในเทคโนโลยีการบินและความเป็นนักผจญภัย

ครอบครัวกับฮอลลีวูด
- David Ellison — ปัจจุบันเป็นซีอีโอของ Paramount Pictures
- Megan Ellison — โปรดิวเซอร์มากฝีมือ มีผลงานระดับรางวัลอย่าง American Hustle และ Phantom Thread
ส่วนชีวิตคู่ ปัจจุบันเขาแต่งงานกับ โจลิน จู ภรรยาคนที่ห้า วัยเพียง 34 ปี แสดงให้เห็นว่าแม้ชีวิตส่วนตัวยังคงเป็นที่จับตา แต่ก็ไม่ได้บดบังภาพลักษณ์ในฐานะนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพล

“เขายังไม่จบแค่นี้”
ในวัย 81 ปี หลายคนอาจคาดว่าเอลลิสันจะหันหลังให้โลกธุรกิจ แต่ตรงกันข้าม เขายังคงทำงานทุกวัน รักษาร่างกายให้แข็งแรง และบริจาคเงินหลายล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการวิจัย “ต่อต้านความชรา”
“เขายังไม่จบแค่นี้ เพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งของทุกสิ่งทุกอย่างในซิลิคอน วัลลีย์”
เรื่องราวของแลร์รี เอลลิสันตอกย้ำว่า ในโลกธุรกิจ ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการกลับมาพลิกเกม
แหล่งอ้างอิง
หมายเหตุ: มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีเปลี่ยนแปลงตามราคาหุ้นในตลาด การเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของเอลลิสันอาจเป็นเพียงชั่วครู่

