ข่าวเศรษฐกิจ–เทคโนโลยี

ญี่ปุ่นเปิดศึกชิงสมรภูมิ EV โลก หวังพลิกเกมที่จีน–Tesla ครองมานาน

ญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ หลัง SCSK Corporation บริษัทเทคโนโลยีภายใต้กลุ่มซูมิโตโมะ (Sumitomo Group) เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแนวคิด (Concept EV) ที่ใช้เวลาเพียง 9 เดือนในการพัฒนา

พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ “สร้างสังคมแห่งการเคลื่อนที่ผ่านการสร้างสรรค์ร่วมกัน” (Mobility Co-Creation Society) ภายในงาน Japan Mobility Show 2025 ที่จะมีขึ้น จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 9 พฤศจิกายน 2025 ณ อาคาร Tokyo Big Sight กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

การเข้าสู่ตลาดของ SCSK เป็นสัญญาณสำคัญว่าญี่ปุ่นกำลังตั้งหลักจริงจังในสนาม EV และ SDV หลังจากเริ่มต้นช้ากว่าคู่แข่ง ขณะนี้ค่ายรถญี่ปุ่นรายใหญ่อย่าง โตโยตา, นิสสัน และฮอนดา ต่างเทเงินลงทุนในการวิจัยพัฒนา EV และเทคโนโลยี AI, IoT อย่างต่อเนื่อง

เปิดแนวคิด Intelligent Cockpit และ AI เฉพาะบุคคล

ภายใต้แนวคิด “Mobility as Experience” SCSK จะเปลี่ยนห้องโดยสารให้กลายเป็น “สถานที่แห่งประสบการณ์” ไม่ใช่เพียงเครื่องมือเดินทาง

จุดเด่นของรถคือ “Intelligent Cockpit” ที่ผสานเทคโนโลยีจอ Pillar-to-Pillar ขนาด 44.6 นิ้ว ความละเอียดระดับ 8K พัฒนาโดยพันธมิตรต่างประเทศ

พร้อมระบบ AI เฉพาะบุคคลที่สามารถจดจำและปรับพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้ได้ในแบบ real-time ตั้งแต่การเลือกเพลง การปรับแสง ไปจนถึงการแนะนำสถานที่ระหว่างทางตามอารมณ์ของผู้ขับ

SCSK ตั้งใจให้รถต้นแบบนี้เป็น “ต้นแบบของการผสมผสานโลกไอทีเข้ากับยานยนต์” อย่างแท้จริง โดยเชื่อว่าความรู้จากผู้ผลิตรถยนต์ดั้งเดิมควรถูกต่อยอดด้วยจุดแข็งด้านซอฟต์แวร์ของบริษัทเทคโนโลยี

“Co-Creation Mobility” ญี่ปุ่นนิยามใหม่ของการทำงานร่วมกัน

หัวใจสำคัญของบูธ SCSK ในงานปีนี้คือแนวคิด “Co-Creation” บริษัทประกาศว่า เป้าหมายของการจัดบูธไม่ใช่เพียงโชว์เทคโนโลยี แต่เพื่อ “สร้างสังคมแห่งการเคลื่อนที่ร่วมกัน”ซึ่ง บริษัทใดบริษัทหนึ่งไม่อาจทำได้เพียงลำพัง

“ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีที่พัฒนาโดยผู้ผลิตยานยนต์ กับจุดแข็งของ SCSK ในด้านไอทีและซอฟต์แวร์เราจะรวมพลังของอุตสาหกรรมทั้งหมด เพื่อขยายบริการการเคลื่อนที่รูปแบบใหม่” ถ้อยแถลงของผู้บริหาร SCSK บนเวที Japan Mobility Show 2025

สะท้อนวิสัยทัศน์ชัดเจนว่าเป้าหมายของ SCSK ไม่ใช่การขายรถ แต่คือ “สร้างแพลตฟอร์มที่ทุกอุตสาหกรรมสามารถเข้ามามีส่วนร่วม” ตั้งแต่ผู้ผลิตรถยนต์ ชิ้นส่วน ซอฟต์แวร์ พลังงาน ไปจนถึงเทคโนโลยีเชื่อมต่อและข้อมูล

SCSK จากระบบไอทีสู่ผู้นำเทคโนโลยี Mobility Infrastructure

SCSK เริ่มจากบริษัทซอฟต์แวร์ในเครือ Sumitomo Computer Service ตั้งแต่ปี 1969 ก่อนจะควบรวมกับ CSK Corporation ในปี 2011 ปัจจุบันมีรายได้กว่า 600 พันล้านเยนหรือราว 1.33 แสนล้านบาท และมีพนักงานกว่า 20,000 คนทั่วโลก

ในช่วงหลังบริษัทขยายสู่เทคโนโลยี AI, IoT, Cloud และ Data Analytics โดยเฉพาะการพัฒนา “Software-Defined Vehicle (SDV)” ที่เน้นให้ซอฟต์แวร์ควบคุมฟังก์ชันหลักของรถทั้งหมด

SCSK ร่วมมือกับ Honda และ Toyota Connected เพื่อสร้างระบบ “อัปเดตรถแบบ OTA” (Over-the-Air) ที่สามารถเพิ่มฟีเจอร์ได้ตลอดอายุการใช้งาน

รถต้นแบบที่ใช้เวลาเพียง 9 เดือนจึงกลายเป็น “สัญลักษณ์แห่งความเร็วและความยืดหยุ่นเชิงดิจิทัล” ของอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเร่งปรับตัวเข้าสู่ยุคซอฟต์แวร์

การประกาศของ SCSK สัญญาณเชิงยุทธศาสตร์แข่งกับค่ายจีน

ญี่ปุ่นจะไม่แข่งในสนามกำลังผลิต กับจีนอีกต่อไป แต่จะย้ายสมรภูมิมาอยู่ในพื้นที่ที่ตนถนัด ภายใต้ “คุณภาพซอฟต์แวร์ ความปลอดภัย และประสบการณ์ผู้ใช้”

การพัฒนารถ SDV ที่ใช้เวลาเพียง 9 เดือนจึงไม่ใช่แค่การเร่งเทคโนโลยี แต่เป็นการเร่ง “วัฒนธรรมการสร้างสรรค์ร่วมกัน”

หรือที่หลายฝ่ายเรียกว่า Keiretsu 2.0 เครือข่ายอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ที่ทุกฝ่ายร่วมกันพัฒนาและแชร์เทคโนโลยี

SCSK ระบุอีกว่า งาน Japan Mobility Show 2025 คือโอกาสในการพบปะพันธมิตรร่วมสร้างสรรค์รายใหม่จากหลายอุตสาหกรรม ทั้งยานยนต์ เทคโนโลยี และพลังงาน โดยจะจัด แถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 8.20–8.30 น. ณ บูธ SCSK ภายในงาน

เพื่อเปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ความร่วมมือกับผู้ผลิตรายใหม่และแผนพัฒนาแพลตฟอร์ม SDV เชิงพาณิชย์

หมายเหตุ

EV = รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle)
SDV = รถยนต์ที่ซอฟต์แวร์เป็นหัวใจหลัก สามารถอัปเดตฟังก์ชันใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา
รถ EV ไม่จำเป็นต้องเป็น SDV เสมอไป แต่ SDV สมัยใหม่ส่วนใหญ่เป็นรถไฟฟ้า

แหล่งอ้างอิง

Autoblog, Japan Mobility Show 2025, SCSK Corporation, Plug & Play Japan,
Wards Auto, EV Engineering Online, SCSK Report 2024