Chili’s เปิดเกมราคาถูกเขย่าศึกเบอร์เกอร์ ดึงลูกค้าฟาสต์ฟู้ดออกจาก McDonald’s และ Wendy’s
การแข่งขันตลาดเบอร์เกอร์ในสหรัฐฯ พลิกทางแรง เมื่อ Chili’s ร้านอาหารสไตล์ Casual Dining เปิดดีล “3 for Me” ราคา 10.99 ดอลลาร์สหรัฐณ เจาะตรงฐานลูกค้าฟาสต์ฟู้ด ด้วยข้อเสนอที่ให้มากกว่าในราคาพอ ๆ กับชุดคอมโบของแมคโดนัลด์ (McDonald’s) และเวนดี้ (Wendy’s) ส่งผลดึงทราฟฟิกเข้าสาขาอย่างก้าวกระโดด
เปิดสงครามราคา ดีล 10.99 ดอลลาร์ฯ
แพ็กเกจ “3 for Me” ประกอบด้วย
– เบอร์เกอร์
– เฟรนช์ฟราย
– เครื่องดื่มรีฟิล
– ชิปส์และซัลซ่าแบบเติมไม่อั้น
จอร์จ เฟบ็กซ์ CMO ของ Chili’s ระบุว่า ผู้บริโภคเผชิญภาวะ “ราคาแพงขึ้น แต่ปริมาณเท่าเดิม” ของฟาสต์ฟู้ด ทำให้ดีลนี้เข้ามาตอบโจทย์ Value for Money แบบจับต้องได้
ทราฟฟิกพุ่งสองหลัก ขณะที่ฟาสต์ฟู้ดทรุด
ข้อมูลจาก Placer.ai ชี้ว่า
– Chili’s ทราฟฟิกไตรมาสล่าสุดโต 15.4%
– ยอดขายโต 21% YoY
ตรงกันข้ามกับคู่แข่งหลัก
– McDonald’s ทราฟฟิกลด 3.5%
– Wendy’s ดิ่งแรง 6.5% และเตรียมปิด 300 สาขา ที่ขาดทุน
จอร์จ เฟล็กซ์ CEO Chili’s เผยว่า ลูกค้ารายได้น้อย (ต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี) คือกลุ่มที่โตเร็วที่สุด สวนกระแสฟาสต์ฟู้ดที่กำลังสูญเสียฐานลูกค้าหลักกลุ่มเดียวกัน
ฟาสต์ฟู้ดต้องรีเซ็ตกลยุทธ์
McDonald’s เดินเกมกลับด้วยการรีสต็อกเมนูราคาประหยัด เช่น Snack Wrap ราคา 2.99 ดอลลาร์ พร้อมขยายกลุ่ม Value Meal เพื่อตอบโจทย์ตลาดที่มองหาวิธีลดค่าใช้จ่ายทุกมื้อ
ด้าน Wendy’s เปิดโครงการ “Project Fresh” ปรับภาพลักษณ์คุณภาพอาหาร ปิดสาขาไม่ทำเงิน และออกเมนูใหม่ “Tendys” เพื่อดึงผู้บริโภคกลับมา
Chili’s กลายเป็นคู่แข่งตัวจริงในสนามที่ฟาสต์ฟู้ด
แม้จะอยู่ในเซกเมนต์ Casual Dining แต่ Chili’s กำลังใช้ กลยุทธ์ Category Blurring โดยนำประสบการณ์ร้านนั่งทานมาปะทะกับราคาฟาสต์ฟู้ดแบบตรงไปตรงมา เป็นตัวเร่งให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมในช่วงเศรษฐกิจตึงตัว
นักวิเคราะห์ชี้ว่า หาก Chili’s รักษาราคาและภาพลักษณ์ “คุ้มค่ากว่าไดรฟ์ทรู” ไว้อย่างต่อเนื่อง ศึกเบอร์เกอร์ปี 2025 อาจกลายเป็นปีที่ฟาสต์ฟู้ดเสียส่วนแบ่งตลาดให้ร้านนั่งทานเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
แหล่งที่มา

