สิงคโปร์พลาดตำแหน่งเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอาเซียน
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองปลอดภัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่สิงคโปร์กลับหลุดจากอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรายงานล่าสุดของ Numbeo โดยพ่ายให้กับเชียงใหม่ อย่างเฉียดฉิว โดยรายงานดังกล่าวอ้างอิงข้อมูลจากผู้ตอบแบบสอบถามในช่วง 5 ปี ประเมินจากความรู้สึกต่ออาชญากรรม ความปลอดภัยในเวลากลางวันและกลางคืน รวมถึงความกังวลต่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและทรัพย์สิน

เหตุผลที่สิงคโปร์พลาดตำแหน่งแชมป์
แม้จะยังคงครองความปลอดภัยในหลายด้าน สิงคโปร์กลับมีจุดอ่อนที่ส่งผลต่อคะแนนในภาพรวม ได้แก่
1. ความเสี่ยงในอุตสาหกรรมและสถานที่ทำงาน
สิงคโปร์มีรายงานการละเมิดมาตรการความปลอดภัยในพื้นที่ก่อสร้างและภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในสถานที่ทำงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การทำงานบนที่สูง หรือพื้นที่แคบ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความจำเป็นในการยกระดับมาตรการควบคุมและการบังคับใช้กฎระเบียบอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น
2. อาชญากรรมทางการเงินและการฟอกเงิน
ด้วยการเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก สิงคโปร์จึงกลายเป็นจุดหมายของเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน โดยเฉพาะการฟอกเงิน ซึ่งแม้จะมีระบบควบคุมที่แข็งแกร่ง แต่การเปิดกว้างของระบบเศรษฐกิจและการลงทุนก็ยังเปิดโอกาสให้เกิดช่องโหว่ที่อาจกระทบต่อภาพรวมความปลอดภัย

3. ภัยไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น
ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของสิงคโปร์ก็หมายถึงการต้องเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง การโจมตีข้อมูล การหลอกลวงทางออนไลน์ และช่องโหว่ในระบบเครือข่าย ส่งผลให้รัฐบาลต้องเร่งออกกฎหมายใหม่ รวมถึงวางแผนการกำกับดูแลความปลอดภัยทางดิจิทัลในเชิงลึก
4. ปัญหาสังคมและแรงงานต่างชาติ
แม้ระบบการจัดการแรงงานของสิงคโปร์จะมีประสิทธิภาพในหลายมิติ แต่ยังมีข้อวิจารณ์เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของแรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเผยให้เห็นถึงจุดเปราะบางของระบบสาธารณสุขในกลุ่มประชากรชายขอบ
5. จุดอ่อนเชิงโครงสร้าง
นักวิชาการบางส่วนชี้ว่า แม้ระบบการบริหารราชการของสิงคโปร์จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ความร่วมมือในระดับชุมชนยังไม่ลึกซึ้งเท่าที่ควร การมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลสังคมยังจำกัด ซึ่งส่งผลต่อการสร้างความรู้สึกปลอดภัยในระดับปัจเจก

“เชียงใหม่” ผงาดอันดับ 1 ในภูมิภาค
จากคะแนนความปลอดภัยล่าสุด เชียงใหม่คว้าอันดับหนึ่งของภูมิภาค ด้วยคะแนน 78.2 สูงกว่าสิงคโปร์ที่ได้ 77.4 และแม้จะดูเป็นเมืองท่องเที่ยวขนาดกลาง เชียงใหม่กลับได้รับคะแนนสูงอย่างน่าประหลาดใจในหลายมิติ โดยเฉพาะความรู้สึกปลอดภัยของคนในพื้นที่เอง ปัจจัยที่ทำให้เชียงใหม่โดดเด่น
ระดับอาชญากรรมต่ำ
เชียงใหม่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมรุนแรงต่ำมากเมื่อเทียบกับเมืองท่องเที่ยวในภูมิภาค เช่น การโจรกรรมหรือการทำร้ายร่างกายแบบไม่เลือกหน้าแทบไม่เกิดขึ้น
ความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ทั้งกลางวันและกลางคืน ผู้คนสามารถเดินทางได้อย่างอิสระโดยไม่รู้สึกว่าถูกคุกคาม ซึ่งสะท้อนถึงโครงสร้างสังคมที่เข้มแข็งและระบบดูแลพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ความเข้มแข็งของชุมชน การมีเครือข่ายชุมชนและภาคประชาชนที่เข้าร่วมในการดูแลความสงบเรียบร้อย เช่น กลุ่มอาสาสมัครในชุมชน ตำรวจชุมชน และโครงการพัฒนาท้องถิ่น ทำให้เกิดการเฝ้าระวังร่วมกันอย่างเป็นระบบ
เมืองขนาดกลางที่ไม่แออัด ขนาดของเชียงใหม่ที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยเป็นไปได้ง่าย และลดโอกาสในการเกิดปัญหาแบบเรื้อรัง
ความพยายามของภาครัฐและเอกชน หลายหน่วยงานในเชียงใหม่มีนโยบายเชิงรุกในการสร้างความปลอดภัย เช่น การติดตั้งกล้อง CCTV อย่างครอบคลุม การพัฒนา Smart City เพื่อเสริมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ และการจัดเวรยามร่วมระหว่างภาคประชาชนและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
ผลกระทบต่อสิงคโปร์
แม้สิงคโปร์จะยังเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวนิยมอันดับต้น ๆ แต่การเสียแชมป์ในครั้งนี้ส่งสัญญาณหลายด้าน
ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ การหลุดจากตำแหน่งอันดับหนึ่ง อาจทำให้ภาพลักษณ์เมืองปลอดภัยระดับโลก ถูกท้าทาย โดยเฉพาะในยุคที่นักท่องเที่ยวมีทางเลือกมากขึ้น และความปลอดภัยกลายเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ในการตัดสินใจเดินทาง
ด้านการท่องเที่ยว เมืองที่ได้รับการจัดอันดับว่าปลอดภัยกว่าสิงคโปร์ เช่น เชียงใหม่ อาจกลายเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับนักเดินทางที่ให้ความสำคัญกับความสงบและความปลอดภัย ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวหญิง นักเดินทางเดี่ยว และครอบครัว
การพัฒนานโยบาย รายงานจาก Numbeo อาจถูกใช้เป็นข้อมูลในการทบทวนแนวทางการพัฒนาเมืองของสิงคโปร์ ทั้งในแง่การสร้างระบบตรวจสอบ การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน และการเพิ่มความร่วมมือจากภาคประชาชน
สิงคโปร์จะฟื้นความเชื่อมั่นได้อย่างไร
แม้จะพลาดตำแหน่ง แต่สิงคโปร์ก็ยังมีโอกาสในการฟื้นฟูและเสริมสร้างความเชื่อมั่น เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยแบบบูรณาการ การลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับระบบแจ้งเตือนและตรวจจับอาชญากรรม รวมถึงการใช้ Big Data เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มอาชญากรรมล่วงหน้า การส่งเสริมความร่วมมือในระดับชุมชน ส่งเสริมบทบาทของชุมชมด้วยการอบรม ให้เครื่องมือ และสนับสนุนโครงการนำร่อง เช่น ตำบลปลอดภัย โรงเรียนปลอดภัย
รวมทั้งร่งปรับปรุงกฎหมายด้านไซเบอร์และการฟอกเงิน เพื่อให้ทันกับภัยคุกคามยุคใหม่ สิงคโปร์ต้องเร่งพัฒนาระบบการรายงานที่โปร่งใส เข้าถึงได้ และเอื้อให้มีการเปิดเผยความเสี่ยงต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง
แหล่งอ้างอิง
https://thaibizsingapore.com/news/main/opportunities/singapore-tourism-situation-opportunities/
https://citycracker.co/city-reflection/architectures-soft-power-singapore/