ฉีดวัคซีนในวัวป้องกันโรคแอนแทรกซ์

โรคแอนแทรกซ์ เชื้อร้ายจากดินสู่คน ความเสี่ยงที่ต้องรู้เท่าทัน

“แอนแทรกซ์” (Anthrax) หรือโรคที่หลายคนรู้จักในชื่อ “โรคถ่าน” อาจฟังดูห่างไกลชีวิตประจำวัน แต่แท้จริงแล้ว นี่คือโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่ร้ายแรงและสามารถกลับมาระบาดได้ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในแหล่งเลี้ยงสัตว์ หรือชุมชนที่มีการสัมผัสผลิตภัณฑ์จากสัตว์โดยตรง

แอนแทรกซ์คืออะไร?

โรคแอนแทรกซ์เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งเป็นแบคทีเรียแกรมบวกที่สามารถสร้างสปอร์ทนทานและอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานนับสิบปี เชื้อนี้พบมากในดินและสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่มีการเลี้ยงสัตว์ในระบบเปิด

มนุษย์สามารถติดเชื้อจากการสัมผัสสัตว์ที่ป่วย หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ขน ผิวหนัง เนื้อ หรือน้ำนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ แต่ไม่สามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้

อาการของโรคแอนแทรกซ์

อาการแอนแทรกซ์จะแตกต่างกันไปตามช่องทางที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย

  • ทางผิวหนัง: พบมากที่สุดกว่า 95% ของผู้ป่วย เริ่มจากตุ่มแดง คัน และกลายเป็นแผลลึกมีศูนย์กลางสีดำ มักเกิดที่มือ แขน คอ หรือใบหน้า
  • ทางเดินหายใจ: เกิดจากการสูดดมสปอร์ อาการเริ่มคล้ายไข้หวัด เช่น ไข้ ไอ แน่นหน้าอก แต่จะรุนแรงอย่างรวดเร็ว หากไม่ได้รับการรักษา อาจเสียชีวิตได้ถึง 95%
  • ทางเดินอาหาร: เกิดจากการบริโภคเนื้อสัตว์ปนเปื้อน อาจมีไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเสียรุนแรง หรืออุจจาระมีเลือดปน

วิธีป้องกันที่ครอบคลุมทั้ง “สัตว์ คน และสิ่งแวดล้อม”

ในสัตว์

  • ฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้สัตว์ในพื้นที่เสี่ยง
  • ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์เข้าออกจากพื้นที่ระบาด
  • ควบคุมและกำจัดเชื้อในพื้นที่ต้องสงสัย เช่น ใช้โซดาไฟทำลายเชื้อ
  • หากพบสัตว์ตายผิดปกติ ห้ามชำแหละหรือนำมาใช้บริโภคเด็ดขาด

ในสถานประกอบการเกี่ยวกับสัตว์

  • ให้ความรู้พนักงานเรื่องการป้องกันโรค
  • จัดระบบระบายอากาศ และควบคุมฝุ่นละออง
  • ใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) อย่างเคร่งครัด
  • ล้างและทำลายสปอร์ที่ปนเปื้อนก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิต

สำหรับประชาชนทั่วไป

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสซากสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ไม่ปลอดภัย
  • ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงไม่สุก
  • ตรวจสอบแหล่งที่มาของนม เนื้อ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ก่อนบริโภค

การรักษา ยาปฏิชีวนะคือหัวใจ

หากได้รับการวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว ยาปฏิชีวนะเช่น เพนิซิลลิน, เตตราซัยคลิน, อีริโทรมัยซิน หรือ ซิโปรฟลอกซาซิน สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในระยะแรกของโรค ผู้ป่วยควรรับการรักษาต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์

สารพัดข่าวลือ อย่าเพิ่งตื่นตระหนก

แม้ว่าแอนแทรกซ์จะเป็นโรคร้ายแรง และเคยถูกใช้เป็นอาวุธชีวภาพในบางกรณี แต่ในทางสาธารณสุขปัจจุบัน หากควบคุมแหล่งโรคได้ตั้งแต่สัตว์ต้นทาง จะสามารถลดความเสี่ยงต่อประชาชนได้อย่างมาก หน่วยงานปศุสัตว์และสาธารณสุขทุกระดับมีระบบเฝ้าระวังเชิงรุก หากพบสัตว์ติดเชื้อ จะมีการกักโรคและป้องกันการแพร่ระบาดทันที

รู้เท่าทันแอนแทรกซ์ 

อาวุธสำคัญของคุณในฐานะพลเมือง จำเป็นต้องรู้ว่าโรคนี้เกิดอย่างไร ติดต่อทางใด ป้องกันอย่างไร และหากมีอาการผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพราะในโลกของโรคติดเชื้อ ความรู้คือการป้องกันที่ดีที่สุด

https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=1

1 thought on “โรคแอนแทรกซ์ เชื้อร้ายจากดินสู่คน ความเสี่ยงที่ต้องรู้เท่าทัน”

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *