World Expo

Osaka Expo 2025 จากเกาะแห่งความฝันสู่บททดสอบศรัทธาเศรษฐกิจญี่ปุ่น

World Expo ไม่ใช่แค่งานแสดงนวัตกรรมแต่เป็นสนามประลองความฝันระดับโลกและครั้งนี้ญี่ปุ่นเดิมพันอนาคตของตัวเองเต็มที่

World Expo 2025 จัดขึ้นที่ เกาะยูเมะชิมะ (Dream Island) เมืองโอซาก้า ระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2025 บนพื้นที่กว่า 155 เฮกตาร์ ด้วยเป้าหมายยิ่งใหญ่ที่จะเปลี่ยนเกาะถมทะเลแห่งนี้ให้เป็น “เมืองต้นแบบแห่งอนาคต”

รัฐบาลญี่ปุ่นทุ่มงบกว่า 185,000 ล้านเยน (ประมาณ 47,000 ล้านบาท) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีล้ำยุคอย่าง Digital Twin, VR, IoT, AI โดยมีแนวคิดหลักคือ “Designing Future Society for Our Lives” เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs และแผน Society 5.0

เป้าหมายสำคัญ  ดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 28.2 ล้านคน พร้อมสร้างกระแสเงินสะพัดขนาดใหญ่ กระตุ้นเศรษฐกิจโอซาก้าให้ลุกโชนอีกครั้ง

งานเปิดได้ไม่นาน แต่เสียงวิจารณ์ก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ 

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2025 Expo 2025 ต้อนรับผู้เข้าชมครบ 1 ล้านคน ภายในเวลาเพียง 11 วัน หลังเปิดงาน ผู้โชคดีคนที่หนึ่งล้านคือ “มะโกโตะ มิยะโมริ” จากเมืองโอซาก้า ได้รับของที่ระลึกจากมาสคอตงาน “Myaku-Myaku”

แต่เมื่อดูตัวเลขลึกๆกลับน่าเป็นห่วง

  • จำนวนผู้เข้าชมเฉลี่ยเพียง 76,000 คน/วัน หรือ 92,000 คน/วัน หากรวมเจ้าหน้าที่
  • ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่คาดไว้ที่ 150,000 คน/วัน อย่างมีนัยสำคัญ

นักวิเคราะห์จาก Nikkei Asia เตือนว่า  “ยอดจองตั๋ว หรือพิธีเฉลิมฉลอง ไม่สามารถกลบความจริงได้ หากโครงสร้างพื้นฐานยังไม่พร้อม และความเชื่อมั่นยังสั่นไหว”

 ปัญหาที่ Expo ต้องเผชิญ

  • โครงสร้างพื้นฐานล่าช้า รถไฟใต้ดินสายใหม่ที่วางแผนรองรับผู้ชมยังไม่พร้อมเปิดใช้งาน
  • เหตุการณ์ฉุกเฉิน มีรายงานเหตุระเบิดก๊าซมีเทนจากพื้นที่ก่อสร้าง สร้างความกังวลด้านความปลอดภัย
  • ปัญหาการบริหาร ระบบควบคุมโดรนและการจัดการฝูงชนมีข้อบกพร่อง
  • ไวรัลภาพลบ เจ้าหน้าที่ Expo คุกเข่าขอโทษนักท่องเที่ยว สะท้อนการบริหารงานที่สั่นคลอน

เสียงสะท้อนจากชาวญี่ปุ่นเองก็ดังชัดขึ้นเรื่อย ๆ “ยูเมะชิมะไม่ใช่เกาะแห่งความฝันอีกต่อไป แต่มันคือเกาะที่เราฝันไปเอง” — Asahi Shimbun Online

 พาวิลเลียนไทย งบหนัก เสียงเบา ความคาดหวังที่ยังไปไม่ถึง

พาวิลเลียนไทย เข้าร่วมงานด้วยงบประมาณ 900 ล้านบาท (น้อยกว่าครั้ง Expo 2020 ดูไบที่ใช้งบ 1,200 ล้านบาท) ดำเนินการโดยกระทรวงสาธารณสุข

เนื้อหาหลักของพาวิลเลียนมุ่งนำเสนอ

  • การสร้างเสริมสุขภาพ
  • การส่งเสริมนวดไทย
  • การสร้างโอกาสทางธุรกิจผ่าน Business Matching

แต่เสียงวิจารณ์ก็เริ่มดังขึ้น

  • ดีไซน์พาวิลเลียนไม่โดดเด่น
  • ประสบการณ์ภายในยังไม่ดึงดูดใจ
  • การบริหารโครงการถูกตั้งคำถามเรื่องโปร่งใส

แม้กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า “การดำเนินงานทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบราชการไทยและญี่ปุ่น”

แต่เสียงสะท้อนจากสังคมเตือนชัดว่า “แค่ทำตามระเบียบอาจไม่พอสำหรับเวทีโลกที่ทุกชาติแข่งกันโชว์พลัง”

หากไม่พลิกเกม Expo อาจกลายเป็นหายนะราคาแพง

หาก Expo 2025 ไม่สามารถพลิกความเชื่อมั่นได้ทันเวลา ญี่ปุ่นอาจต้องเผชิญผลกระทบใหญ่

  • รายได้จากการท่องเที่ยวและการลงทุนหดหาย
  • ภาพลักษณ์ประเทศเสียหายบนเวทีโลก
  • โอกาสสร้างเครือข่ายนวัตกรรมใหม่ ๆ สูญเปล่า
  • และ Expo อาจถูกจารึกเป็น “บทเรียนราคาแพง” แทนที่จะเป็น “ชัยชนะ”

World Expo ที่ควรเป็น “เครื่องจักรกระตุ้นเศรษฐกิจ” อาจกลายเป็น “เครื่องเตือนใจ” เรื่องการบริหารผิดพลาดแทน

เวทีสุดท้ายแห่งศักดิ์ศรี

Osaka Expo 2025 คือมากกว่างานนิทรรศการ แต่มันคือบททดสอบว่าญี่ปุ่นยังสามารถจุดประกายความเชื่อมั่นของโลกได้หรือไม่

และสำหรับประเทศไทยในเวทีที่สายตาทั่วโลกกำลังจับจ้องคำถามสำคัญยังคงชัดเจนเราจะเป็นแค่นักแสดงบนเวทีหรือจะลุกขึ้นมาเขียนบทของตัวเอง?”

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *